ออร์ไรซ์ซ่า (Oriceza) น้ำมันรำข้าว
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออร์ไรซ์ซ่า (Oriceza)
Oriceza น้ำมันรำข้าว + Co-Q10
Natural Co-Enzyme Q10 จากประเทศญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นผู้คิดค้นวิธีการสกัด Co-Q10 จากธรรมชาติ และมีงานวิจัยรองรับเป็นลิจสิทธิ์เฉพาะเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และมีเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงที่ทันสมัยมาตรฐานระดับสากลทำให้สารที่สกัดออกมามีความบริสุทธิ์สูง, มาตรฐานการผลิตมีความแม่นยำและคงที่, วัตถุดิบต่างๆก็ผ่านการตรวจสอบด้านคุณภาพได้อย่างดีเยี่ยม
Co-Enzyme Q10 มีดีอย่างไร ?
เป็นสารที่มีบทบาทในการเพิ่มพลังงานให้ก่เซลล์ เพื่อให้เป็นพลังงานในร่างกาย เป็นสารสำคัญในการสังเคราะห์ Adeno-sinetriphosphate (ATP) ซึ่งเปรียบได้กับขุมพลลังงานของเซลล์ทั่วร่างกายช่วยปกป้องเซลล์จากการทำร้ายของอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคร้าย ซึ่งมาจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ เช่น โรคหัวใจ ข้อเสื่อม อัมพาต หรือ โรคที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของวัย ซึ่งเซลล์ที่ต้องการ Co-Q10 ในปริมาณมาก ได้แก่ หัวใจ สมอง และกล้ามเนื้อ แต่เมื่ออายุมากขึ้นการทำงานขงร่างกาย ในระบบต่างๆก็เสื่อมถอยลง ตับก็ไม่สามารถสังเคราะห์ Co-Q10 ได้ในปริมาณเท่าเดิม สิ่งที่เกิดจิ้นคือ ริ้วรอย และความเสื่อมของระบบต่างๆ
Co-Enzyme Q10 มีบทบาทอะไรในการต่อต้านโรคต่างๆ ในร่างกายเรา ?
1. สร้างพลังงานในระดับเซลล์ โดยที่ Co-Q10 เปรียบเสมือนหัวเทียนจุดปรกายเครื่องยนต์เริ่มทำงาน โมเลกุลพลังงานนั้นชื่อว่า ATP
2. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ Co-Q10 จะกระจายรายรอบเยื่อหุ้มเซลล์เพราะเป็นสภาวพไขมัน ซึ่ง Co-Q10 ละลายได้ดี โดยจะปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายเสียหายจากอนุมูลอิสระ หรือ Oxidative Stress
3. บทบาทของ Co-Q10 ในแง่ของการต่อต้านโรค
✅ โรคหัวใจ จากผลการทดลองในผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง ให้ผู้ป่วยได้รับ Co-Q10 ในปริมาณ 100 มก. ต่อวัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าระดับพลาสม่า Co-Q10 สูงขึ้น 3 เท่า ดัชนีวัดค่าความหนาผนังกล้ามเนื้อหัวใจ (Systolic wall thickening Score index) สูงขึ้น ทั้งในส่วนของ rest and peak dobutamine stress echo โดยสูงขึ้น 12.1% และ 15.6% ตามลำดับ
✅ โรคความดันโลหิตสูง ในการศึกษาผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โดย Dr. Langsjoen ผู้ป่วยร้อยละ 51 มีอาการดีขึ้น มี Diastolic pump มากขึ้น จนหยุดยาลดความดันโลหิตได้ภายใน 4 เดือน
✅ โรคธาลัสซีเมีย สำหรับผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียผลการทดลองของคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล พบว่าการได้รับ Co-Q10 เพิ่มเติมในปริมาณ 100 มก. ต่อวันเป็นเวลา 6 เดือนติดต่อกัน จะช่วยลด Oxidative stress ทำให้การต้านอนุมูลอิสระทำงานได้ดียิ่งขึ้น
✅ เหงือกอักเสบ มีรายงานถึงผลตอบรับที่ดีต่อ Co-Q10 เนื่องจากหลอดเลือดที่เหลือกกับหัวใจต่อตรงถึงกันได้ ภาวะผิดปกติที่ทั่วใจจึงมาปรากฏที่เหงือกด้วย
✅ ลดระดับคลอเลสเตออลในเลือด (สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ เพราะยาลดใขมันมักหยุดยั้งกระบวนการสร้าง Co-Q10) ควรได้รับ Co-Q10 เพิ่มพลังงานให้กับหัวใจ
✅ โรคมะเร็ง ที่รายงานผลการศึกษา พบว่ามะเร็งเต้านม "หดตัวเล็กลง" สัมพันธ์กับปริมาณของ Co-Q10 ที่ใช้รักษาสรุปว่าการให้ Co-Q10 90-390 มก. ต่อวัน มีผลให้คนไข้มะเร็ง 3 คน หายสนิท และการกระจายของมะเร็งไปยังตับก็ระงับไปด้วย
✅ โรคที่เกี่ยวกับเซลล์สมองที่เสื่อมต้องการพลังงานมาก เช่นเดียวกับหัวใจและตับ อีกทั้ง Co-Q10 ยังเป็นตัวคอยต้านอนมูลอิสระเข้าไปทำลาย DNA หากขาด Co-Q10 ก็เลยขาดพลังงาน ทำให้สมองทั้งล้าและเสียหาย เมื่อเสียหายมากๆเข้าก็จะแสดงผลออกมาเป็นโรคสมองเสื่อม รวมถึงไมเกรน
✅ โรคพาร์คินสัน (Parkinson) ลักษณะของคนที่เป็นโรคนี้ก็คือ มือสั่น เดินส่าย เซลล์สมองเสื่อมแปรผันไปตลอดเวา หากหยุดยั้งกระบวนการเสื่อมไม่ได้ อาการของโรคก็จะลุกลามไปเรื่อยๆ Co-Q10 จึงเป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งมีผลต่อต้านอาการเสื่อมของสมอง ในการประชุมสมาคมแพทย์ประสาทสหรัฐเดือนตุลาคม 2545 มีมติให้ใช้ Co-Q10 เป็นอาหารเสริม
สำหรับโรคพาร์คินสันหากเป็นการรักษาแพทย์จะให้ใช้ขนาดสูงถึงวันละ 300-1200 มก. โดยแบ่งกินเป็น 4 มื้อ
✅ ใช้เป็นวิตามินในการเผาผลาญไขมันระดับเซลล์ (Cellular burn) ในการลดความอ้วนและต้านอนุมูลอิสระ
✅ ใช้เป็น Antioxidant ช่วยให้ผิวสดใส ชะลอวัย
Gamma Oryzanol ในน้ำมันรำข้าวมีคุณสมบัติอะไร ?
1. เป็นตัวแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) คือ สารต้านอนุมูลอิสระ ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย อันทำให้เกิดการแก่ก่อนวัย (Antiaging) ช่วยป้องกันการเกิดเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ผิดปกติ หรือที่เรียกว่า เซลล์มะเร็ง (Cancer)
2. มีความสามารถในการปิองกันเซลล์ผิวจากการถูกทำลายโดยแสงแดด
3. ยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นตัวเร่งสร้างเม็ดสี จึงทำให้ผิวดูกระจ่างสดใสขึ้น
4. ลดระดับของไขมันในเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจอุดตัน
5. เพิ่มการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endophine Hormone) ช่วยผ่อนคลายความเครียดและหลับสบาย
6. กระตุ้นการหลั่งซอร์โมน สำหรับการเจริญเติบโต(Growth Hormone)
7. ลดการสูญเสียแคลเซียม ทำให้ลดอัตราการเกิดโรคกระดูกพรุน
8. ลดอัตราการเกิดภาวะวัยทอง (Menopause)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น